Co-payment ตัวช่วยวางแผนการเงินและเลือกประกันให้ตอบโจทย์

blank

การมีประกันสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกคน เพราะช่วยลดความเสี่ยงทางการเงินจากค่ารักษาพยาบาลที่ไม่คาดคิด แต่หลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจในเรื่องของ Co-payment (โคเพย์เมนต์) ซึ่งเป็นเงื่อนไขหนึ่งที่ช่วยให้เราเข้าถึงประกันสุขภาพได้ง่ายขึ้น บทความนี้จะมาขยายความ Co-payment ให้ชัดเจนและเห็นภาพมากขึ้น

Co-payment ทำงานอย่างไร?

Co-payment คือการ แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย ร่วมกันระหว่างผู้เอาประกันกับบริษัทประกัน โดยผู้เอาประกันจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ และส่วนที่เหลือบริษัทประกันจะเป็นผู้จ่ายให้

ลองดูตัวอย่างเพิ่มเติม:

  • ค่ารักษาพยาบาลรวม 50,000 บาท
  • เงื่อนไข Co-payment 10% (สูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท)

หากคุณเข้ารับการรักษาด้วยค่าใช้จ่าย 50,000 บาท คุณจะต้องจ่ายเอง 10% ของยอดรวม ซึ่งเท่ากับ 5,000 บาท แต่เนื่องจากเงื่อนไขระบุว่าสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท คุณจึงจ่ายเพียง 2,000 บาทเท่านั้น และบริษัทประกันจะจ่ายส่วนที่เหลืออีก 48,000 บาท

blank

ประโยชน์ของ Co-payment ที่มากกว่าแค่ทำให้เบี้ยถูกลง

การมีเงื่อนไข Co-payment ไม่ได้มีประโยชน์แค่ทำให้ค่าเบี้ยประกันสุขภาพถูกลงเท่านั้น แต่ยังช่วยในเรื่องอื่น ๆ อีกด้วย

  • ช่วยให้ผู้เอาประกันวางแผนการเงินได้ดีขึ้น: การรู้ว่าเราต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลส่วนหนึ่งเอง ทำให้เราสามารถวางแผนและเตรียมเงินสำรองสำหรับค่าใช้จ่ายส่วนนี้ได้
  • สร้างความรับผิดชอบร่วมกัน: เมื่อผู้เอาประกันต้องจ่ายค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่ง ทำให้มีการพิจารณาก่อนการเคลมมากขึ้น เช่น การไปพบแพทย์เมื่อจำเป็นจริง ๆ ไม่ใช่ไปเพราะคิดว่าประกันจะจ่ายให้ทั้งหมด ซึ่งช่วยลดภาระที่ไม่จำเป็นของบริษัทประกันได้
  • ทำให้เบี้ยประกันถูกลงและเข้าถึงง่ายขึ้น: การลดภาระความเสี่ยงของบริษัทประกัน ทำให้บริษัทสามารถออกแบบประกันที่มีเงื่อนไข Co-payment ที่หลากหลายและค่าเบี้ยถูกลงได้ ทำให้ผู้ที่อยากมีประกันสุขภาพเข้าถึงได้ง่ายขึ้น

blank

ข้อควรพิจารณาก่อนเลือกซื้อประกันแบบมี Co-payment

ถึงแม้ Co-payment จะมีข้อดีหลายอย่าง แต่ก่อนตัดสินใจซื้อ ควรพิจารณาจากสิ่งเหล่านี้ร่วมด้วย

  1. อัตรา Co-payment และจำนวนเงินสูงสุดที่ต้องจ่ายเอง: ควรพิจารณาจากกำลังทรัพย์ของตนเองว่าสามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนนี้ได้เท่าไหร่
  2. เงื่อนไขการเคลม: ตรวจสอบเงื่อนไขในกรมธรรม์ให้ละเอียด เช่น เงื่อนไข Co-payment นี้ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลส่วนไหนบ้าง
  3. แผนการเงินส่วนบุคคล: ประเมินว่าแผนการเงินของคุณเหมาะสมกับประกันแบบนี้หรือไม่ เพราะแม้จะจ่ายเบี้ยถูกลง แต่เมื่อต้องเคลมอาจต้องมีเงินก้อนสำรองไว้

การทำความเข้าใจเรื่อง Co-payment จะช่วยให้คุณสามารถเลือกซื้อประกันสุขภาพที่เหมาะสมกับความต้องการและฝบประมาณของคุณได้มากขึ้น ทำให้การวางแผนทางการเงินเพื่อสุขภาพเป็นเรื่องง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง